วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กำเนิดนักสืบรุ่นใหม่

กำเนิดนักสืบรุ่นใหม่
ตำรวจไทยหลายคนมีความพยายามอย่างล้นเหลือที่จะเข้าคลี่คลายคดีหลายคดีที่มีความซับซ้อน ต้องยอมรับว่าตำรวจรุ่นใหม่ที่หลุดออกมาสวมเครื่องแบบเต็มตัวในปัจจุบันนี้มีสมองดี และบางคนมีพรสวรรค์คล้ายกับคนที่เล่นดนตรีเป็นก็สามารถจับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเคาะให้เข้าจังหวะได้เหมาะเจาะ แม้ว่าจะอ่านโน้ตไม่ออกก็ตาม นักดนตรีลักษณะนี้เมื่อมีผู้รู้สอนการอ่านโน๊ตให้อย่างถูกทิศถูกทาง เขาก็สามารถที่จะรุดหน้าไปได้อย่างก้าวกระโดด เช่นเดียวกันหากนักสืบได้ตำราหรือกูรูที่ชี้ทิศทางให้ เขาก็สามารถที่จะเดินเครื่องเป็นนักสืบสวนมืออาชีพได้อย่างทันที
บอกได้ว่าการจับกุมผู้ต้องหาในคดีอำพรางตัวเป็นผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักสืบหน้าใหม่ยอมรับในทฤษฎีใหม่ โดยนำหลักพฤติกรรมศาสตร์มาใช้ในการคลี่คลายติดตาม ซึ่งคดีอำพรางการตายลักษณะนี้ ทฤษฎีดังกล่าวบอกไว้ว่าตำรวจต้องพยายามควบคุมเรื่องราวในคดีให้ได้ นั่นคือการจัดรายละเอียดของคดีให้เรื่องราวมีความสอดคล้องกัน ซึ่งผลจากการจัดการและดูพฤติกรรมต่างๆของเป้าหมายจะเกิดผล 2 ประการ
ประการแรก รายละเอียดของคดีจะสอดคล้องกันทั้งหมดทั้งทางหลักฐานที่ได้มาและพยานปากต่างๆ หรือไม่ก็เกิดความไม่สอดคล้องกันของเหตุการณ์ จนทำให้เกิดประเด็นสงสัย ประการที่สอง การพยายามทำลายหลักฐานในเชิงพฤติกรรมศาสตร์มักจะถือว่าเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาใหม่ให้กับการสืบสวน
ในคดีนี้ถือว่าต้องปักธงแดงทางคดีไว้เลยว่ามีความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเหตุการณ์ทุกอย่างถูกจัดขึ้นอย่างสอดคล้องต้องกันทั้งหมด และสอดคล้องอย่างเกินความจริง รวมทั้งมีหลักฐานใหม่ปรากฏขึ้นอย่างมากมาย
ผมยืนยันได้ว่าหากผู้ต้องหาไม่พยายามดิ้นรนเปลี่ยนชื่อ เพื่อ “เกิดใหม่” เป็นคนอื่น คดีนี้จะทำให้ตำรวจทำงานยากมากขึ้น
เมื่อนำคดีนี้มาวิเคราะห์ตามหลักพฤติกรรมศาสตร์จะพบจุดสังเกตอย่างหนึ่งที่เหมือนจะเป็นรายละเอียดปีกย่อย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นจุดใหญ่ของคดีและทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย นั่นก็คือเมื่อย้อนหลังไปในวันที่สามีมาแจ้งว่าพบศพภรรยาแล้ว แต่ผู้เป็นสามีกลับไม่ติดใจสงสัยเรื่องทรัพย์สินหรือเครื่องประดับ ทั้งที่พฤติกรรมของภรรยามักจะชอบของประดับมีค่า และใส่เครื่องประดับมากมายเมื่อออกจากที่พัก แต่ที่ศพกลับมีบัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น ข้อมูลส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กองบังคับการปราบปรามตัดสินใจเดินหน้า เพราะมันขัดกับพฤติกรรมของคนทั้งคู่ในอดีต ทำให้เชื่อเบื้องต้นได้ว่าอาจจะมีการอำพรางพฤติกรรมเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าคดีนี้จะเดินเครื่องได้อย่างราบเรียบโดยปราศจากขวากหนามเนื่องจากคดีนี้มีความยุ่งยากอยู่ที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลบางคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่การวางแผน เพราะคดีนี้ดูก็รู้แล้วว่ามีการวางแผนการเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแรกและขณะนี้กองบังคับการปราบปรามกำลังเข้าไปจัดการในเรื่องรายละเอียด
ทั้งนี้ผมเชื่อว่าการจับกุมคดีนี้ได้เป็นเพราะนักสืบยอมรับในทฤษฎีใหม่ ซึ่งการยอมรับครั้งนี้จะทำให้เกิดนักสืบหน้าใหม่ขึ้นมาอีกหลายคน นอกจากนี้การจับกุมในคดีนี้ถือว่าใช้วิธีที่มาตรฐานไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่ตำรวจไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น คดีนี้จึงถือเป็นคดีหนึ่งที่น่าจะเป็นที่ยอมรับของตำรวจทั่วโลก และเป็นบทเรียนให้กับตำรวจไทยด้วย
ผมดีใจครับที่นักสืบรุ่นใหม่มีพัฒนาการและพัฒนาได้ดีกว่าที่หลายคนคิดไว้ด้วยซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น: